แม้แต่รัฐบาลไทยก็ประณามอิสราเอล: เมื่อ 'ความเป็นกลาง' ถูกแทนที่ด้วย 'หลักการ'

อับดุลสุโก ดินอะ 13 ก.ย. 2568 | อ่านแล้ว 35 ครั้ง


ในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและเปราะบาง รัฐบาลไทยมักจะเลือกวางตัวเป็นกลางเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับฝ่ายใด แต่การออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวและมีนัยสำคัญอย่างยิ่ง การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไทยไม่ได้มองเหตุการณ์นี้เป็นเพียงความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการละเมิดหลักการสากลที่ไม่อาจยอมรับได้

การละเมิดอธิปไตยที่ไม่สามารถนิ่งเฉยได้

แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศระบุชัดเจนว่า การโจมตีทางอากาศในกรุงโดฮาของอิสราเอลเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของรัฐกาตาร์อย่างโจ่งแจ้ง" ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างร้ายแรง ท่าทีนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเข้าข้างปาเลสไตน์หรือประเทศในโลกมุสลิม แต่เป็นการยืนยันในหลักการพื้นฐานที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องยึดถือ นั่นคือการเคารพในอธิปไตยของรัฐอื่น

การใช้กำลังโดยมิชอบเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค แต่ยังบ่อนทำลายความมั่นคงและสันติภาพระหว่างประเทศโดยรวม สำหรับประเทศไทย การยืนยันในหลักการนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากวันหนึ่งไทยถูกละเมิดอธิปไตยบ้าง ก็จำเป็นต้องอาศัยหลักการสากลเดียวกันนี้เพื่อขอความสนับสนุนจากนานาชาติ

การละเมิดมนุษยธรรมซ้ำซาก: จากกาซาถึงกาตาร์

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้ถูกนานาชาติประณามอย่างหนักจากการโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา การกระทำที่ขัดต่อ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งระบุว่าโรงพยาบาลเป็นเขตปลอดภัย การโจมตีเช่นนี้ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมากและทำลายระบบสาธารณสุขโดยสิ้นเชิง

การโจมตีที่กาตาร์ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการกระทำที่ขาดความยับยั้งชั่งใจและละเลยหลักการมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน การโจมตีในอาคารที่พักอาศัยซึ่งมีพลเรือนอยู่ด้วยไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ การกระทำที่ซ้ำซากเช่นนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อิสราเอลกำลังสูญเสียความชอบธรรมบนเวทีโลก และทำให้ประเทศที่เคยลังเลอย่างไทยต้องออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน

การวางตำแหน่งตัวเองในฐานะ "Middle Power"

นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่าง ผศ.ดร.มาโนชญ์ อารีย์ ได้ชี้ว่าการออกแถลงการณ์ประณามในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการวางตำแหน่งตัวเองของไทยในฐานะ "middle power" หรือมหาอำนาจขนาดกลางที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันหลักการสากลบนเวทีโลก การยืนหยัดในหลักการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องผลประโยชน์ของไทยในอนาคต แต่ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและความน่าเคารพในสายตาของประชาคมโลกอีกด้วย

การที่รัฐบาลไทยตัดสินใจประณามการกระทำของอิสราเอลในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การตอบสนองต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าประเทศไทยจะไม่นิ่งเฉยต่อการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนอีกต่อไป นี่คือการแสดงออกถึงบทบาทที่กล้าหาญและเป็นผู้นำ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีบนเวทีโลกได้ต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: