เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.(ด้านนิติวิทยาศาสตร์) เปิดเผยกรณีฃ เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกจากลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านบางกะปิ มีรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเงิน ทะเบียน ศง 5323 กทม. ตกจากลานจอดรถชั้น 3A ลงมาข้างล่าง เป็นเหตุให้น.ส.ศุภาภร เวียงนาค อายุ 45 ปี เสียชีวิต โดยสรุปสาเหตุของรถยนต์ตกจากอาคารจอดรถดังกล่าว โดยระบุว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดในวันนั้น พร้อมทั้งประสานผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ร่วมตรวจสอบ พบว่าระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ไม่มีความบกพร่อง

แต่พบขวดน้ำดื่มขัดอยู่ใต้แป้นเบรค ขณะที่ด้านหัวของขวดน้ำดื่มอยู่บริเวณคันเร่ง จึงทำให้ไม่สามารถเหยียบแป้นเบรคลงได้ และยังเป็นการกดคันเร่งเพิ่มความเร็วของรถมากขึ้นไปอีก โดยมีวงรอบความแรงของเครื่องยนต์ 5000 รอบ จากการที่ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านพิสูจน์หลักฐานจึงทดลองจำลองเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ขณะที่การคำนวณความเร็วเฉลี่ยของรถจากจุดชนจนถึงผนังอาคาร ซึ่งมีความยาวของระยะทาง 58.40 เมตร คำนวณเวลาและระยะทางแล้วขณะเกิดเหตุรถคันนี้วิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นไปได้ว่าคนขับพยายามเหยียบเบรค แต่เนื่องจากมีขวดน้ำขัดอยู่จึงเหยียบเบรคไม่ได้ กลับเป็นการเหยียบคันเร่งแทน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดภายในห้างเพิ่มเติม พบว่าผู้เสียชีวิตหลังจากเลิกงานได้เดินออกจากห้างพร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนตามปกติ ไม่มีคนติดตามหรือจ้องจะทำร้าย จึงตัดประเด็นเรื่องการฆาตกรรมทิ้งไป

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้เน้นหนักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ มาตรการป้องกัน เน้นการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคเอกชน ดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในมิติเชิงพื้นที่ (Area Approach) แบ่งการดำเนินงานเป็น 6 ด้าน ดังนี้  ด้านการบริหารจัดการ

ให้จังหวัดและกรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน          ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายตาม 10 มาตรการสำคัญที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน  ควบคุมการจำหน่าย การดื่มและการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เน้นหนัก       

ในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี  ด้านความปลอดภัยทางถนน ดำเนินการปรับปรุงสภาพผิวจราจร ประสานผู้รับเหมาก่อสร้าง              คืนผิวจราจรและหยุดพักการก่อสร้างชั่วคราว พร้อมติดตั้งป้ายเตือนและเครื่องหมายบริเวณเส้นทางที่กำลังก่อสร้างให้ชัดเจน ด้านสังคมและชุมชน จัดตั้งจุดสกัดประจำชุมชน/หมู่บ้าน

เพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ควบคู่กับการใช้มาตรการควบคุม          ทางสังคม ด้านการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน โดยให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบริเวณจุดผ่านแดนถาวรและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และด้านการดูแลการสัญจรทางน้ำ บูรณาการหน่วยงาน           

ที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือและการสัญจรทางน้ำ มาตรการแก้ไขปัญหา มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ          ทางถนนบ่อยครั้ง และจุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ โดยกำหนดมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุในพื้นที่ พร้อมพิจารณาจัดตั้งจุดตรวจบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

การแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น            ร่วมแก้ไขปัญหา อาทิ ติดตั้งป้ายและสัญญาณไฟเตือน จัดทำคลื่นระนาดบนผิวถนน และการปรับสภาพสิ่งแวดล้อมอันตรายข้างทาง โดยการทาสี ทำความสะอาดเครื่องหมายจราจร การตัด แผ้วถางต้นไม้หรือสิ่งกีดขวางบริเวณข้างทาง  เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะ มาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์

โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานปีนี้ไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าต้องลดสถิติอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือจำนวนผู้เสียชีวิตเท่าใด เนื่องจากทุกชีวิตมีค่า แม้เพียง 1 ชีวิต ก็ไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งทุกภาคส่วนจะบูรณาการสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชนและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด”

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai