เพจ Make Life Safe Again ตั้งคำถามกับการที่ตำรวจไทยจะไปดูงานจราจรสหรัฐฯ ไทยรถติดทึ่สุดในโลกก็จริง แต่ถ้านับเป็นเมือง จากภาพจะเห็นว่า 19 อันดับแรกของเมืองที่รถติดที่สุดในโลก เป็นเมืองในสหรัฐฯ ถึง 9 เมือง และเรื่องอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในสหรัฐฯ ก็สูง อยากให้ตำรวจเปลี่ยนประเทศและควรหาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยเงินภาษีของประชาชน ที่มาภาพประกอบ: prayitnophotography (CC BY 2.0)

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2560 เพจ Make Life Safe Again ระบุว่าสืบเนื่องจากกรณีที่มีเอกสารรายชื่อตำรวจนครบาล ที่นำทีมโดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร และรายชื่อตำรวจรวม 15 นาย ถูกส่งผ่านไลน์กลุ่มต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 15 มี.ค. อ้างว่าเป็นรายชื่อคณะดูงานที่สหรัฐอเมริกา 13 วัน (18-30 เม.ย.นี้) เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงซึ่งงบที่ใช้เป็นของ กทม. โดยวันที่ 16 มี.ค. เจ้าของงบฯ มาอยู่ในงานเปิดช่องจราจรที่ย่านลาดพร้าวด้วย นั่นก็คือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ยอมรับว่าเป็นเอกสารจริง อยู่ระหว่างรอการอนุมัติแม้จะมีชื่อไปดูงานแต่ พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้ระบุว่าจะไม่เดินทางไปนั้น (อ่านเพิมเติม: โผล่อีกตำรวจนครบาลดูงานจราจรสหรัฐฯ 13 วัน)

โดยเพจ Make Life Safe Again ได้ระบุว่าไทยรถติดทึ่สุดในโลกก็จริง แต่ถ้านับเป็นเมือง จากภาพจะเห็นว่า 19 อันดับแรกของเมืองที่รถติดที่สุดในโลก เป็นเมืองในสหรัฐฯถึง 9 เมือง! โดย LA หนักสุดเนื่องจากผู้ใช้ยวดยานพาหนะเสียเวลากับรถติดบนถนนเฉลี่ยปีละ 104.1ชั่วโมง ขณะที่กรุงเทพฯ ติดอันดับเมืองรถติดอันดับ 12 ของโลก และผู้ใช้ถนนเสียเวลาไปกับรถติดประมาณ 64.1 ชั่วโมงต่อปี (อ่านเพิ่มเติม: ไทยรถติดที่ 1 ของโลก-ผลสำรวจชี้ไม่มีทางกำจัดปัญหาได้ถาวร) 

ตัวเลขอันดับเมืองรถติดมากที่สุดในโลก > ช่องซ้าย: อันดับของเมืองทั้งหมด, ช่องกลาง: อันดับของ Inrix Traffic Scorecard, ใน 'วงเล็บ' คือปี 2015, ช่องขวา: ชั่วโมงเฉลี่ยที่ใช้ไปกับรถติดในปี 2016 ภาพจาก: http://inrix.com/scorecard/

นอกจากนี้ ปัญหาจราจรอีกอย่างคือก็คืออัตราการบนตายทางถนน ซึ่งสหรัฐฯ ก็ไม่ค่อยดีนัก โดยปี 2015 ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2014 ถึง 7.7% ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 และเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดตั้งแต่ปี 1966 และอัตราการตายเพิ่มขึ้นเป็น 1.12 คน ต่อ 100 ล้านไมล์ที่รถในสหรัฐฯ วิ่งในปี 2015 เป็นอัตราที่สูงสุดตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งปัญหาหลักก็เหมือนเมืองไทย คือ ความเร็วและการเมาแล้วขับ (อ่านเพิ่มเติม: U.S. traffic deaths jump 7.7 percent in 2015 to 35,200) ส่วนปี 2016 U.S. Department of Transportation ระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนใน 9 เดือนแรก มีประมาณ 27,875 ราย เพิ่มขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2015 ที่เสียชีวิต 25,808 ราย สำหรับอัตราการเสียชีวิตใน 9 เดือนแรกเพิ่มขึ้นจาก 1.10 ราย ต่อ 100 ล้านไมล์ที่รถวิ่งทั้งประเทศสหรัฐฯในปี 2015 เป็น 1.15 ราย ต่อ 100 ล้านไมล์ในปี 2016 (ส่วนข้อมูลทั้งหมดของปี 2016 จะเผยแพร่ในปลายเดือน มี.ค. 2017) (อ่านเพิ่มเติม: Early Estimate of Motor Vehicle Traffic Fatalities For the First 9 Months of 2016)

โดย เพจ Make Life Safe Again ระบุว่าการไปดูงานต่างประเทศเพื่อเอาความรู้มาแก้ปัญหาของไทยเป็นเรื่องเข้าใจได้แต่จากข้อมูลที่นำเสนอไป อยากให้ตำรวจเปลี่ยนประเทศและควรหาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยเงินภาษีของประชาชน