อธิบดีคุมประพฤติ สรุปยอดเมาแล้วขับเข้ากระบวนการคุมประพฤติปีใหม่ 2563 สูงสุดถึง 11,997 คดี โดยกว่า 50% ถูกส่งเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 วัน พร้อมทั้งทบทวนเพื่อรับมือช่วงสงกรานต์ | ที่มาภาพประกอบ: 77 ข่าวเด็ด

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2563 ว่าที่กรมคุมประพฤติ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสรุปยอดคดีเมาแล้วขับที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2562 ถึง 2 ม.ค. 2563 ว่ามีสถิติคดีที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติ 12,360 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา สูงสุดถึง 11,997 คดี หรือร้อยละ 97 และคดีขับเสพ 345 คดี คดีขับรถประมาท 17 คดี คดีขับซิ่งและแข่งรถ 1 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติกับเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พบคดีขับรถขณะเมาสุราเพิ่มขึ้น 3,291 คดี คิดเป็นร้อยละ 37.80 และเป็นการกระทำผิดซ้ำย้อนหลัง 1 ปี 362 ราย และทำผิดซ้ำเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ 24 ราย

"กรมคุมประพฤติจะให้ผู้กระทำความผิดทุกรายทำแบบประเมินคัดกรองพฤติกรรมการดื่มสุรา เพื่อนำผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากเป็นผู้ติดสุราเรื้อรัง เข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาล 4 เดือน 117 ราย โดยลอตแรกจะเข้ารับการบำบัด 47 ราย ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงปานกลาง 1,424 ราย หรือร้อยละ 50 จะส่งเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 วัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกไม่ดื่มสุรา ระหว่างที่อยู่ในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีนักจิตวิทยาคอยให้คำแนะนำ หลังออกจากค่ายยังต้องทำงานบริการสังคมดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และจะนำเข้าไปห้องดับจิตเพื่อไปดูสภาพผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมถึงพาไปเยี่ยมครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ" อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าว

นายวิตถวัลย์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาหลังจากดำเนินการมาตรการคุมประพฤติ และผู้ที่ถูกจับเมาแล้วขับ พบว่าผู้ถูกดำเนินคดียินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย ไม่มีรายใดหลบหนีหรือฝ่าฝืนเงื่อนไข แต่สิ่งที่จะต้องนำไปทบทวนปรับปรุงเพื่อรับมือกับเทศกาลสงกรานต์ โดยในช่วงปีใหม่พบว่ายังมีจุดอ่อนอยู่ในด่านชุมชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์กรมคุมประพฤติจะส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครไปประจำในทุกๆ ด่านชุมชน เพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการตรวจจับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์